« Home | ปัญหาของแคเดนซ์บนเดเบียน Etch » | ติดตั้งเดเบียนบน IBM R50e : ตอนที่ ๒ » | สเปคเครื่องสำหรับวินโดวส์วิสต้า » | เวิร์ด-ทู-เท็กซ์ » | ติดตั้งเดเบียนบน IBM R50e : ตอนที่ ๑ » | ฮานาบิ » | ก้าวที่หนึ่ง » 

Wednesday, January 11, 2006 

ลงเครื่อง Sun ใหม่

ตอนแรกตั้งใจจะติดตั้งแค่ Design Kit ของ Europractice version 16.00 ที่ได้มานานแล้ว แต่ยังไม่มีเวลาทำเสียที บนเครื่องซันตัวเล็ก แต่เมื่อลองเช็คเครื่องดู ปรากฏว่าเจอ rootkit ที่เคยเจาะเข้ามาเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่อยู่เนเธอร์แลนด์ แล้วเครื่องเกตเวย์เสีย เลยต้องให้ทางนี้เปิดเนตเวิร์คต่อตรงไปพลางๆ ก่อน เลยเจอดีโดน rootkit เข้าจนได้ มันยังตกค้างอยู่ ถึงแม้จะจัดการกำจัดบางส่วนจนมันทำอะไรไม่ได้แล้ว (มั้ง?) แต่เพื่อความไม่ประมาท ลงโปรแกรมใหม่หมดเลยดีกว่า อืม...ไม่ได้จัดการเครื่องซันซะนาน ชักหลงๆ ลืม งั้นจดลำดับขั้นไว้ที่นี่ดีกว่า เผื่อคราวหน้าอาจได้ใช้

ขั้นแรกก็ต้องสำรองข้อมูลสำคัญก่อน พวกข้อมูลของผู้ใช้ และไฟล์คอนฟิคต่างๆ (ได้แก่ passwd, shadow, group, hosts, motd, cshrc) จากนั้นใส่แผ่น Solaris 8 Installation เข้าไป กด Stop+A แล้วสั่ง boot cdrom มันก็จะดำเนินการต่างๆ ถามโน่นนี่ไปเรื่อย พวกข้อมูลเนตเวิร์ค รูทพาสเวิร์ด ที่สำคัญคือตอนแบ่งสไลด์ในฮาร์ดดิสก์ ต้อง preserve ส่วนของผู้ใช้ไว้ ในเครื่องนี้อยู่ที่ /dev/dsk/c0t0d0s7 ซึ่งก็คือ /export/home

โชคร้ายที่โปรแกรมส่วนใหญ่อยู่ใน /usr ซึ่งเป็นส่วนที่โดน rootkit เต็มๆ เลยตัดสินใจล้างทิ้งหมด แล้วจัดการแบ่งสไลด์ใหม่ ให้เป็นที่อยู่เฉพาะของโปรแกรมประยุกต์ เผื่อคราวหน้าพลาดพลั้งไปก็ไม่ต้องลงใหม่อีก จากนั้นเลือกลงแพคเกจแบบ End Users ก็พอ เพราะแต่ก่อนบ้าพลัง ลงชุดใหญ่ เสียเวลาลงนาน กินที่เยอะ แถมยังไม่ค่อยได้ใช้ คราวนี้เลยลงน้อยๆ เข้าไว้ พวก document นี่ไม่ต้องลงเลย รอบนี้จึงใช้เวลาลง Solaris 8 สั้นมากอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

พอเครื่องรีบูตตัวเองเสร็จสรรพก็จัดการย้ายไฟล์คอนฟิคต่างๆ กลับมา น่าแปลกที่พอเข้าหน้าจอกราฟฟิคของยูสเซอร์ทั่วไปปรากฏว่าตรง terminal ไม่สามารถพิมพ์ได้ คือมันจะนิ่งไปเลย เป็นหมดทุกยูสเซอร์ยกเว้นรูท เช็คไปเช็คมา สิ่งที่ต่างกัน น่าจะเป็นที่ shell ที่ใช้ เพราะยูสเซอร์เป็น C-shell หมด แต่รูทเป็น shell ธรรมดา จึงน่าจะเป็นที่ไฟล์ cshrc เดิมที่มันมีอะไรเยอะแยะไปหมด แต่เครื่องนี้ยังเกลี้ยงเกินไป ถ้าลงโปรแกรมครบแล้วน่าจะหาย

ขั้นต่อไปก็ต้องติดตั้งแพตช์สำคัญๆ โดยสามารถดาวน์โหลดชุดใหญ่ได้จาก Recommended & Security Patches และติดตั้งโปรแกรมจำเป็นต่างๆ จาก Sunfreeware แต่เวลาดาวน์โหลดหาที่ใกล้ๆ เร็วๆ ที่อื่นน่าจะดีกว่า ลองเสิร์ชกูเกิ้ลดูเจอหลายที่ทีเดียว ที่ลองใช้ก็คือที่ Arizina U. ซึ่งก็เร็วดี ทำการแตก zip ของแพตช์แล้วบูตเข้า Single-user เพื่อติดตั้งแพตช์ เข้าไปยังไดเรคทอรี่ที่แตกไว้แล้วสั่ง
# ./install_cluster -nosave

ที่ใส่ออพชัน nosave ก็เพื่อประหยัดเนื้อที่ แต่ก็เสี่ยงว่าถ้่าหากเกิดอัพเดตพลาดก็จะเสียข้อมูลแพตช์เก่าไป เพราะฉะนั้นต้องใช้ออพชันนี้อย่างระมัดระัวัง ตอนลงแพตช์ก็มักจะเจอข้อความว่า
Installation of xxxxxx-xx failed. Return code 2.
...
Installation of xxxxxx-xx failed. Return code 8.
พวกนี้เป็นคำเตือนที่ไม่ร้ายแรง code 2 ก็คือ เตือนว่ากำลังพยายามลงแพตช์ที่มีอยู่แล้ว ส่วน code 8 เตือนว่ากำลังลงแพตช์ให้กับแพคแกจที่ไม่มีในเครื่อง สำหรับความหมายของโค๊ดทั้งหมด ดูได้จาก ที่นี่

เกี่ยวกับฉัน

  • ชื่อ อมร
  • อยู่แถวๆ ลาดกระบัง, กรุงเทพฯ
  • เรียนหนังสือมานาน ยังไม่จบซะที เพราะชีวิตคือการเรียนรู้
My profile

บล็อกเพื่อนๆ

Powered by Blogger
and Blogger Templates